top of page

ประวัติศาสตร์อินเดียและเอเชียใต้

               

       “สมัยโบราณ ดินแดนเอเชียใต้ยังเป็นดินแดนเดียวกันทั้งหมด

ที่เรียกว่า “ชมพูทวีป” เป็นแหล่งอารยธรรมตัวแม่ของตะวันออก”

 

 

ประวัติศาสตร์ดินแดนเอเชียใต้ แบ่งเป็น 2 ยุคคือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์และสมัยประวัติศาสตร์

 

1.สมัยก่อนประวัติศาสตร์

         เมื่อก่อนมีชนพื้นเมืองผิวดำที่เรียกว่า ดราวิเดียน หรือ มิลักขะ อาศัยอยู่ที่นี่ก่อน โดยตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุ มีชื่อาราจักว่า โมเฮนโจดาโร-ฮารัปปา อยู่ในปากีสถาน จุดเด่น คือ การสร้างผังเมืองที่ดี มีระบบชลประทาน แล้วเค้ายังพบว่า น่าจะมีอายุใกล้เคียงกับเมโสโปเตเมีย เพราะเจอเหรียญของ   เมโสที่นี่ คงติดต่อค้าขายกันแล้ว ต่อมามีชนผิวขาว หรือ อารยัน คนพวกนี้รูปร่างสูงใหญ่ จมูกโด่ง เดินทางมาจากทะเลสาบแคสเปียน เดินมาถึงพื้นที่ที่ดราวิเดียนอยู่ก่อน ก็มาขับไล่ แล้วตั้งอาณาจักร

 

2.สมัยประวัติศาสตร์

         สมัยมหากาพย์ ชาวอารยัน สร้างอาณาจักรพร้อมกับการเกิดศาสนาพราหมณ์ นับถือเทพเจ้าหลายองค์ มีคัมภีร์พระเวท ระบบวรรณะ มีมหากาพย์เล่มสำคัญคือ มหาภารตยุทธ และรามายณะ

         

         สมัยจักรวรรดิ สามารถรวมอินเดียเป็นจักรวรรดิ สามารถแบ่งได้คือ จักรวรรดิมคธ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำคงคา มีแคว้นมคธเป็นศูนย์กลาง เป็นยุคกำเนิดพระพุทธศาสนาจักรวรรดิเมารยะ มีอำนาจครอบคลุมพื้นที่ทางตอนเหนือของอินเดีย กษัตริย์ที่สำคัญคือ พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงปกครองจักรวรรดิด้วยหลักธรรมทางศาสนาสมัยการรุกรานจากภายนอก ชาวต่างชาว เข้ามารุกรานและรับเอาอารยธรรมอินเดียมาเป็นของตน ชาวกรีกและเปอร์เซียยังได้ถ่ายทอดมรดกให้กับอินเดีย โดยเฉพาะ สถาปัตยกรรมและประติมากรรม แต่แคว้นธาระมีอำนาจมากที่สุด มีกษัตริย์ที่สำคัญได้แก่ พระเจ้ากนิษกะ ทรงนับถือพุทธศาสนานิกายมหายาน เผยแพร่ไปยัง จีน ญี่ปุ่น ทิเบต จักรวรรดิคุปตะ ถือเป็นยุคทองของอินเดีย ต้องการฟื้นฟูมคธให้รุ่งเรือง ส่งเสริมศิลปวิทยา วิทยาศาสตร์ วิทยาการการแพทย์ การผ่าตัด ตั้งมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยนาลันทา

 

         

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

         สมัยมุสลิม สมัยสุลต่านแห่งเดลฮี มุสลิมเชื่อสายเติร์กจากเอเชียกลางเข้ามาปกครอง มีเดลฮี เป็นเมืองหลวง ชาวเติร์กพยายามขยายศาสนาอิสลาม บังคับชาวอินเดียเปลี่ยนสาสนา ทำลายศาสนา เก็บภาษีจิซยาจากราษฎรที่ไม่ใช่มุสลิม

สมัยโมกุล เป็นราชวงศ์สุดท้ายของอินเดีย กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ คือ พระเจ้าอักบาร์มหาราช ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา ต่อมาพระเจ้าซาร์ เจฮัน ทรงเป็นมุลสิมที่เคร่งครัด ยกเลิกการให้เสรีภาพการนับถือศาสนา และพระเจ้าออรังเซบ ก็ยังคงดำเนินนโยบายต่อเนื่อง สมัยโมกุสิ้นสุดลงเมื่ออังกฤษเข้ามายึดครองอินเดียเป็นอาณานิคม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

         สมัยอาณานิคม อังกฤษเข้ามายึดครองอินเดียใช้หลักการ แบ่งแยกแล้วปกครอง (Divided and rule)

*ต่อมาปากีสถานแยกตัวออกจากอินเดีย เนื่องจากความขัดแย้งทางเชื้อชาติและศาสนา ต่อมาบังคลาเทศ แยกออกจากปากีสถานเพราะเรื่องเศรษฐกิจ

 

        เอเชียใต้ในปัจจุบัน อินเดีย เป็นประเทศที่คนมากเป็นอันดับสองของโลก เป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและวิทยาศาสตร์มากขึ้น แต่มีปัญหาเรื่องความยากจน

เดี๋ยวนี้อินเดียกับปากีสถาน ยังรักกันไม่ได้ เพราะมีปัญหาเรื่องแคว้นแคชเมียร์ ต่างคนต่างระแวง เลยทำนิวเคลียร์ไว้ข่มกันบ้าง ทดลองเล่นบ้าง โลกก็กลัวว่ามันจะตู้มขึ้นมาจริงๆ

ศรีลังกา (ชื่อเดิมคือ ซีลอน) มีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของโลก คือ นางสิริมาโว บันดาราไนยเก ปัจจุบันมีปัญหาระหว่างเชื้อชาติ สิงหล-ทมิฬ เคยมาเจรจาสันติภาพที่ไทยด้วย จนปี 2009 รัฐบาลศรีลังกา สามารถสังหารผู้นำกลุ่มทมิฬอีแลมได้

 

 

 

bottom of page